ลงโฆษณาฟรี ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google

โปรโมทสินค้าฟรี ซื้อ ขาย เช่า => โพสฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 22:43:20 น.

หัวข้อ: โรคความดันสูงในคนอายุน้อย โรคที่อาจซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว!
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 25 กรกฎาคม 2025, 22:43:20 น.
โรคความดันสูงในคนอายุน้อย โรคที่อาจซ่อนอยู่โดยไม่รู้ตัว! (https://doctorathome.com/disease-conditions/247)

โรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อย หรือที่เรียกกันว่า "Silent Killer" (ฆาตกรเงียบ) เป็นปัญหาสุขภาพที่น่ากังวลอย่างยิ่งในปัจจุบันครับ เพราะมักจะไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจนในระยะแรก ทำให้หลายคนไม่รู้ตัวว่ากำลังเป็นโรคนี้อยู่ และเมื่อตรวจพบ มักจะมีความดันโลหิตสูงมานานพอสมควรแล้ว ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงต่ออวัยวะสำคัญต่างๆ ได้


ความดันโลหิตสูงคืออะไร?

ความดันโลหิตคือแรงดันของเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในหลอดเลือดแดง โดยมีค่า 2 ตัว:

ค่าบน (Systolic Blood Pressure): แรงดันขณะที่หัวใจบีบตัวส่งเลือดออกจากหัวใจ

ค่าล่าง (Diastolic Blood Pressure): แรงดันขณะที่หัวใจคลายตัวและรับเลือดเข้าสู่หัวใจ

โดยทั่วไป ค่าความดันโลหิตที่ถือว่าปกติคือ น้อยกว่า 120/80 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) หากค่าความดันโลหิตวัดได้ตั้งแต่ 140/90 mmHg ขึ้นไป ถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูง (โดยต้องวัดซ้ำหลายครั้งและในสภาวะที่เหมาะสม)


ทำไมโรคความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยจึงน่ากังวล?

ไม่มีอาการชัดเจน: ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการใดๆ ในระยะแรก ทำให้ไม่รู้ตัวว่าป่วย

ขาดการตรวจคัดกรอง: คนอายุน้อยมักคิดว่าตนเองแข็งแรงดี และไม่ได้ไปตรวจสุขภาพประจำปีอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ไม่ได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่เนิ่นๆ

ความเข้าใจผิด: หลายคนยังคิดว่าความดันโลหิตสูงเป็นโรคของผู้สูงอายุเท่านั้น

นำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง: หากความดันโลหิตสูงเรื้อรังโดยไม่ได้รับการรักษา จะทำลายหลอดเลือดทั่วร่างกาย และส่งผลเสียต่ออวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น:

สมอง: เส้นเลือดในสมองตีบ แตก ตัน (อัมพฤกษ์ อัมพาต)

หัวใจ: หัวใจโต หัวใจวาย กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

ไต: ไตเสื่อม ไตวายเรื้อรัง

ตา: จอประสาทตาเสื่อม อาจถึงขั้นตาบอด

หลอดเลือดแดงใหญ่: หลอดเลือดโป่งพอง

สาเหตุของความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อย
ความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทหลัก:

ความดันโลหิตสูงปฐมภูมิ (Primary or Essential Hypertension):

เป็นชนิดที่พบบ่อยที่สุด (ประมาณ 90-95%) มักไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกิดจากปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่:

พันธุกรรม: มีประวัติครอบครัวเป็นความดันโลหิตสูง


พฤติกรรมการใช้ชีวิต:

การรับประทานอาหาร: บริโภคอาหารรสเค็มจัด (โซเดียมสูง) อาหารไขมันสูง อาหารแปรรูป

น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน: ภาวะอ้วนเพิ่มภาระการทำงานของหัวใจและหลอดเลือด

การขาดการออกกำลังกาย: ทำให้ระบบการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจไม่แข็งแรง

การสูบบุหรี่: ทำให้หลอดเลือดแข็งตัวและตีบ

การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก:

ความเครียด:

ภาวะดื้อต่ออินซูลิน/เบาหวาน:

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep Apnea):

ความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ (Secondary Hypertension):

เป็นชนิดที่พบน้อยกว่า (ประมาณ 5-10%) และมักจะมีความรุนแรงกว่า โดยมีสาเหตุจากโรคอื่นๆ หรือยาบางชนิด เช่น:

โรคไต: เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ เช่น โรคไตวายเรื้อรัง เส้นเลือดที่ไตตีบ

โรคต่อมไร้ท่อ: เช่น โรคของต่อมหมวกไต (เช่น Cushing's syndrome, Pheochromocytoma), โรคของต่อมไทรอยด์ (ไทรอยด์เป็นพิษ)


ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ:

โรคหัวใจบางชนิด: เช่น เส้นเลือดแดงใหญ่ตีบแต่กำเนิด (Coarctation of the aorta)

การใช้ยาบางชนิด: เช่น ยาคุมกำเนิดบางชนิด ยาสเตียรอยด์ ยาแก้ปวดกลุ่ม NSAIDs ยาแก้หวัดบางชนิด

สัญญาณเตือน (ที่อาจไม่ชัดเจน) และใครที่ควรตรวจเช็ค?
เนื่องจากมักไม่มีอาการ คนอายุน้อยที่ควรได้รับการตรวจวัดความดันโลหิตเป็นประจำ ได้แก่:

ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคความดันโลหิตสูง หรือโรคหัวใจและหลอดเลือด

ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน

ผู้ที่รับประทานอาหารเค็มจัด หรือมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดี

ผู้ที่ขาดการออกกำลังกาย

ผู้ที่สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ

ผู้ที่เครียดสะสมเรื้อรัง

ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่นๆ เช่น เบาหวาน โรคไต โรคไทรอยด์

อาการที่อาจบ่งบอก (หากมี) ได้แก่:

ปวดศีรษะ โดยเฉพาะท้ายทอยในตอนเช้า

เวียนศีรษะ

ตาพร่ามัว

อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

ใจสั่น หรือเจ็บหน้าอก

เลือดกำเดาไหลบ่อย

การป้องกันและรักษา
การป้องกันและควบคุมความดันโลหิตสูงในคนอายุน้อยมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อนในระยะยาว:


ตรวจสุขภาพประจำปี:

สิ่งสำคัญที่สุดคือการ ตรวจวัดความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอ แม้จะรู้สึกสบายดีก็ตาม โดยเฉพาะผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยง


ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต:

ลดการบริโภคโซเดียม: หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม อาหารแปรรูป ปรุงอาหารรสอ่อนลง

รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ: เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ลดไขมันอิ่มตัวและไขมันทรานส์

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

ควบคุมน้ำหนัก: รักษาน้ำหนักตัวให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม

งดสูบบุหรี่:

จำกัดการดื่มแอลกอฮอล์:

จัดการความเครียด: ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ทำกิจกรรมที่ผ่อนคลาย

รักษาตามสาเหตุ (สำหรับความดันโลหิตสูงทุติยภูมิ):

หากพบสาเหตุจากโรคอื่น แพทย์จะรักษาโรคที่เป็นต้นเหตุนั้นๆ


การใช้ยา (เมื่อจำเป็น):

หากการปรับพฤติกรรมไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ แพทย์อาจพิจารณาให้ยาลดความดันโลหิต เพื่อควบคุมความดันให้อยู่ในระดับเป้าหมายและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

ควรรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด ไม่หยุดยาเอง

ความดันโลหิตสูงเป็นโรคที่สามารถควบคุมได้ หากได้รับการวินิจฉัยและดูแลรักษาอย่างถูกต้อง การตระหนักถึงความเสี่ยงและใส่ใจสุขภาพตั้งแต่ยังอายุน้อย จะช่วยให้คุณมีคุณภาพชีวิตที่ดีและห่างไกลจากโรคร้ายแรงที่ตามมาครับ