ผู้เขียน หัวข้อ: การเลือกตำแหน่งในการติดตั้งผ้ากันไฟในโรงงานอุตสาหกรรม  (อ่าน 33 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 404
  • เว็บลงโฆษณาฟรี ประกาศขายสินค้าออนไลน์ ซื้อขายแลกเปลี่ยน
    • ดูรายละเอียด
การเลือกตำแหน่งในการติดตั้งผ้ากันไฟในโรงงานอุตสาหกรรม

การเลือกตำแหน่งในการติดตั้งผ้ากันไฟในโรงงานอุตสาหกรรมต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยอิงจาก การประเมินความเสี่ยงเพลิงไหม้ (Fire Risk Assessment) ลักษณะของกระบวนการผลิต และการไหลเวียนของความร้อน/ควัน เพื่อให้การติดตั้งมีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันและจำกัดการลุกลามของไฟ นี่คือตำแหน่งสำคัญที่ควรพิจารณา:

1. บริเวณที่มี "งานร้อน" (Hot Work Areas)

ปัญหาที่แก้ไข: ประกายไฟ, สะเก็ดไฟ, หรือความร้อนสูงจากการเชื่อม, เจียร, ตัดโลหะ ซึ่งเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของเพลิงไหม้ในโรงงาน
ตำแหน่ง:
รอบโต๊ะทำงานเชื่อม/เจียร: ใช้ผ้ากันไฟคลุมบริเวณทำงาน, คลุมชิ้นงาน, หรือวางเป็นฉากกั้น
พื้นที่จัดเก็บวัสดุไวไฟใกล้เคียง: คลุมวัสดุที่ติดไฟง่าย (เช่น กระดาษ, เศษผ้า, น้ำมัน, สารเคมี) ที่อยู่ใกล้กับจุดที่มีงานร้อน
จุดที่มีการซ่อมบำรุงที่ต้องใช้ความร้อน: คลุมอุปกรณ์หรือพื้นที่โดยรอบขณะซ่อมบำรุงเครื่องจักรที่ต้องใช้ไฟหรือความร้อน
รูปแบบผ้ากันไฟ: ผ้าม่านกันสะเก็ดไฟ (Welding Blankets/Screens), ผ้าห่มกันไฟ (Fire Blankets)


2. รอบเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูง (High-Temperature Equipment & Pipes)

ปัญหาที่แก้ไข: การแผ่รังสีความร้อนจากเครื่องจักร (เช่น เตาอบ, หม้อไอน้ำ, ท่อไอน้ำร้อน, เตาหลอม) ทำให้พื้นที่ทำงานร้อนจัด และเป็นอันตรายต่อพนักงานที่สัมผัส
ตำแหน่ง:
หุ้มท่อส่งไอน้ำร้อน/ก๊าซร้อน/น้ำมันร้อน: ใช้ปลอกหุ้มฉนวนแบบถอดได้ที่ทำจากผ้ากันไฟ
บุรอบผนังเตาอบ/เตาหลอม/หม้อไอน้ำ: ใช้ผ้ากันไฟเป็นชั้นป้องกันเสริม หรือเป็นชั้นนอกของฉนวน
คลุมเครื่องจักรที่มีชิ้นส่วนร้อนจัด: ใช้ผ้ากันไฟคลุมบริเวณที่ร้อนจัดเพื่อป้องกันการสัมผัสโดยไม่ตั้งใจ
รูปแบบผ้ากันไฟ: ปลอกหุ้มฉนวนแบบถอดได้ (Removable Insulation Jackets), ผ้าหุ้มฉนวน (Insulation Wraps)


3. บริเวณจัดเก็บสารเคมีหรือวัสดุไวไฟ (Flammable Material Storage)

ปัญหาที่แก้ไข: หากเกิดเพลิงไหม้ขึ้นในบริเวณจัดเก็บสารไวไฟ ไฟจะลุกลามอย่างรวดเร็วและรุนแรง
ตำแหน่ง:
กั้นพื้นที่จัดเก็บ: ใช้ผ้าม่านกันไฟเป็นกำแพงกั้นชั่วคราว หรือเป็นส่วนหนึ่งของระบบกั้นแบ่งโซนไฟ (Fire Compartmentation) เพื่อชะลอการลุกลามของไฟจาก/สู่บริเวณอื่น
รูปแบบผ้ากันไฟ: ผ้าม่านกันไฟอัตโนมัติ (Automatic Fire Curtains), ผ้าม่านกันไฟแบบแขวน


4. บริเวณที่มีช่องเปิดขนาดใหญ่ที่ไฟและควันสามารถแพร่กระจายได้ (Large Openings & Penetrations)

ปัญหาที่แก้ไข: ช่องเปิดต่างๆ เช่น ประตูทางเข้า-ออก, ช่องสำหรับสายพานลำเลียง, ช่องสำหรับลิฟต์ขนของ, หรือช่องระหว่างอาคาร เป็นช่องทางที่ไฟและควันสามารถลุกลามจากโซนหนึ่งไปยังอีกโซนหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว
ตำแหน่ง:
ปากช่องประตูใหญ่/ช่องสายพาน/ช่องลิฟต์: ติดตั้งผ้าม่านกันไฟอัตโนมัติที่สามารถเลื่อนลงมาปิดช่องได้เมื่อเกิดเพลิงไหม้
รูปแบบผ้ากันไฟ: ผ้าม่านกันไฟอัตโนมัติ (Automatic Fire Curtains)


5. จุดแบ่งโซนไฟ (Fire Compartmentation Zones)

ปัญหาที่แก้ไข: ในโรงงานขนาดใหญ่ การแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนๆ ด้วยกำแพงกันไฟ (Fire Walls) เป็นสิ่งสำคัญ หากไม่มีกำแพงที่สมบูรณ์ หรือมีช่องเปิดมาก อาจจำเป็นต้องใช้ผ้ากันไฟเสริม
ตำแหน่ง:
ช่องว่างเหนือฝ้าเพดาน (Concealed Spaces): บางครั้งไฟสามารถลุกลามผ่านช่องว่างเหนือฝ้าได้ การใช้ผ้าม่านกันไฟแบบ Dropped Curtain หรือ Fire Barrier อาจจำเป็นเพื่อจำกัดการลุกลาม
รอบท่อขนาดใหญ่/สายเคเบิลที่ทะลุผนังกันไฟ: ใช้ผ้ากันไฟพันรอบเพื่อซีลช่องว่างที่ทะลุผ่านกำแพงกันไฟ


6. พื้นที่ใกล้ทางหนีไฟและจุดรวมพล (Near Emergency Exits & Assembly Points)

ปัญหาที่แก้ไข: ต้องการให้เส้นทางอพยพปลอดภัยจากความร้อนและควันมากที่สุด
ตำแหน่ง:
บริเวณทางเดินและจุดรวมพล: อาจมีการใช้ผ้าม่านกันไฟเพื่อเป็นแนวทางป้องกันความร้อนและควันชั่วคราว เพื่อให้พนักงานอพยพได้อย่างปลอดภัย

หลักการสำคัญในการเลือกตำแหน่ง:
ประเมินความเสี่ยง: เริ่มต้นจากการวิเคราะห์ว่าส่วนใดของโรงงานมีความเสี่ยงสูงสุดต่อการเกิดเพลิงไหม้ และส่วนใดที่สำคัญต่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน
ปรึกษาวิศวกรความปลอดภัย/ป้องกันอัคคีภัย: ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำที่แม่นยำตามหลักวิศวกรรมและข้อกำหนดทางกฎหมาย
ข้อกำหนดทางกฎหมายและมาตรฐาน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการติดตั้งเป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมายควบคุมอาคาร, กฎหมายความปลอดภัยในการทำงาน, และมาตรฐานการป้องกันอัคคีภัยที่เกี่ยวข้อง
การติดตั้งผ้ากันไฟในตำแหน่งที่ถูกต้องและเหมาะสม จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอัคคีภัยของโรงงานได้อย่างมีนัยสำคัญครับ